วิเคราะห์จากภาพกราฟ 4H ของราคาทองคำ (XAU/USD) พร้อมจุดเข้า (entry), จุด stop-loss และข่าวเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับทองคำและบิทคอยน์ในสัปดาห์นี้
วิเคราะห์กราฟทองคำ (4-ชั่วโมง)
บนกราฟคุณเน้นจุดด้วยลูกศรสีเขียว (แนวโน้มขึ้น) และสีแดง (แนวโน้มลง) พร้อมกับ Parabolic SAR (จุดสีฟ้า) และ MACD
-
เมื่อ Parabolic SAR อยู่ ใต้แท่งเทียน (จุดสีฟ้าอยู่ด้านล่างแท่ง) คือสัญญาณแนวโน้มขาขึ้น — จุดที่ควรพิจารณา เปิดสถานะ Long (ลูกศรเขียว)
-
เมื่อ Parabolic SAR อยู่ เหนือแท่งเทียน (จุดสีฟ้าอยู่ด้านบน) คือแนวโน้มขาลง — สัญญาณพิจารณา ทำกำไรหรือเปิด Long ใหม่หรือลง Short (ลูกศรแดง)
-
นอกจากนี้ ถ้า MACD (เส้นสีฟ้า) ขึ้นตัดเหนือ Signal line (สีส้ม) และ Histogram เป็นบวก → ยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มขึ้น
ตามกราฟ:
-
ช่วงลูกศรเขียวแรก — จุด SAR ลงด้านล่าง และ MACD เริ่มบวก น่าจะเป็น จุดเข้า Long คุณภาพ
-
ช่วงลูกศรแดงแรก — SAR อยู่ด้านบน ทำให้เป็นสัญญาณเตือน แนวโน้มอาจพลิก — ควรพิจารณา take profit หรือ tighten stop
-
ลูกศรเขียวถัดมา — SAR กลับลงใต้แท่งเทียน อีกครั้งเหมาะแก่การ เปิด Long ต่อ
-
จุดอื่นๆ คล้ายกัน
จุดที่แนะนำ | Entry (Long) | Stop-loss |
---|---|---|
จุด เข้าแรก (เขียว) | เมื่อ SAR ลงใต้แท่ง | ใต้แนวรับสำคัญ (ตัวเลขสมมุติ เช่น 3,340) |
จุดเทรล (แดง) | เมื่อ SAR ขึ้นด้านบน | Move stop เป็น breakeven หรือแนวต่ำล่าสุด |
จุดเข้าใหม่ (เขียวถัดมา) | เมื่อ SAR ลงเหลือใต้แท่งอีกครั้ง | ใต้แนวรับใหม่ (e.g., 3,360) |

ข่าวเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง (สัปดาห์นี้)
1. ความไม่มั่นคงของความเป็นอิสระของ Fed ชวนให้นักลงทุนหันมาถือทองคำแทนเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
-
ความพยายามของ Trump ที่จะปลด Fed Governor Lisa Cook ก่อให้เกิดความกังวลเรื่อง Fed ถูกแทรกแซงทางการเมือง ส่งผลให้ ทองคำพุ่งขึ้น, เพื่อนักลงทุนคว้า safe-haven
-
อย่างไรก็ตาม ในวันถัดมา ราคาทองปรับลดลงเล็กน้อย เนื่องจากดอลลาร์ฟื้นตัวและ yield treasuries เริ่มนิ่ง
2. แนวโน้มบิทคอยน์ลดลง ~4% ในสัปดาห์
-
ราคาบิทคอยน์ลงเฉลี่ย 4.3% อยู่ราว ๆ $110,186 เนื่องจากความหวังเรื่อง Fed จะลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายนเริ่มลดลงตาม
3. ข่าวน่าสนใจอื่น ๆ:
-
มีบทความเก็งแนวคิดว่า รัฐบาลสหรัฐอาจเตรียม revalue ราคาทองบนบัญชีรัฐ และสะสม Bitcoin จำนวนมาก เพื่อรับมือหนี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อตลาดทอง-คริปโตในระยะยาว
-
ในประเทศไทย มีข่าวว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยลดดอกเบี้ยลงเหลือ 1.50% และคงนโยบายผ่อนคลาย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังซบเซา (แม้จะมีความเสี่ยงด้านเสถียรภาพไม่มาก)
ประกาศตัวเลข Core PCE Price Index ศุกร์ที่จะถึงนี้
ประกาศตัวเลข Core PCE Price Index (ดัชนีราคาสินค้าบริโภคหลักที่ตัดอาหารและพลังงาน) ในวันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม 2025 เวลา 08:30 ตามเวลาสหรัฐ (EST) หรือประมาณ 20:30 น. ตามเวลาไทย
ความสำคัญของ Core PCE และการคาดการณ์
Core PCE คือดัชนีราคาที่ตัดส่วนที่มีความผันผวนสูงอย่างอาหารและพลังงานออก เพื่อสะท้อนแนวโน้มเงินเฟ้อที่แท้จริง และเป็นดัชนีที่ Federal Reserve ให้ความสำคัญมากกว่า CPI
การคาดการณ์ก่อนประกาศ:
Reading แบบรายปี (YoY) คาดว่าจะเป็น 2.9%, เพิ่มขึ้นจาก 2.8% ในเดือนก่อน
รายเดือน (MoM) คาดว่าจะอยู่ที่ 0.3%, เท่ากับเดือนก่อน
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
หาก Core PCE สูงกว่าคาด:
-
เงินเฟ้อยังคงเร่งตัว → ตลาดอาจปรับลดความเชื่อมั่นในการลดดอกเบี้ยของ Fed
-
ส่งผลให้ ดอลลาร์แข็งค่า, yields ปรับตัวขึ้น และ ทองคำอาจย่อตัวลง เพราะแรงซื้อ safe-haven ลดลง
-
Bitcoin และสินทรัพย์เสี่ยง อาจเผชิญแรงขาย ตาม sentiment ตลาดที่ระมัดระวังมากขึ้น
หาก Core PCE ต่ำกว่าหรือเป็นไปตามคาด:
-
ตลาดอาจเห็นว่าเงินเฟ้อเริ่มคลี่คลาย → เพิ่มความน่าจะเป็นในการลดดอกเบี้ยเข้าสู่การพิจารณา
-
ทองคำอาจได้แรงหนุน จากมุมมองการเงินผ่อนคลาย
-
สกุลเงินสหรัฐอ่อนค่า และ บิทคอยน์อาจฟื้นตัว ตาม sentiment ของสินทรัพย์ความเสี่ยง

สรุปจุดสำคัญ
-
แนวโน้มทองคำ: ได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางนโยบายการเงินของสหรัฐ นักลงทุนซื้อทองเป็น safe-haven แต่มีแรงขายบางส่วนกลับเข้ามาหลังดอลลาร์และ yield ฟื้นตัว
-
แนวโน้มบิทคอยน์: ติดลบเล็กน้อยจากความคาดหวังลดดอกเบี้ยของ Fed ที่อ่อนแรง แต่ยังมีปัจจัยพื้นฐานสนับสนุนในระยะยาว
-
ธุรกรรมภายในไทย: ดอกเบี้ยต่ำ → อาจหนุนสินทรัพย์อย่างทองคำในบาทให้มีแรงซื้อมากขึ้น เช่นการซื้อทองในประเทศ และควรติดตามว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะส่งผลต่อเงินเฟ้อหรือการลงทุนในทองอย่างไร